วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในโลก

#1 Kenyon College
10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        มีผู้กล่าวไว้ว่า "เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้นยังไม่พอ แต่มหาวิทยาลัยจะต้องมีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแสดงความเป็นมหาวิทยาลัยแห่งนั้นด้วย" และที่ Kenyon College สถาบันซึ่งตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ แห่งสหรัฐอเมริกา ก็มีสิ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นคือ "Middle Path" ซึ่งเป็นทางเดินเท้ากว้าง 10 ฟุต ที่ทอดยาวผ่านใจกลางมหาวิทยาลัย ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นโลหิตสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ของวิทยาลัยแห่งนี้ โดยนอกจากทางเดินแห่งนี้จะมีบรรยากาศที่งดงามและร่มรื่นแล้ว ยังเป็นที่ที่นักศึกษามักจะมารวมตัวกันอีกด้วย ดังที่อาจารย์เซอร์กี โลบานอฟ -รอสโทฟสกี ผู้สอนวิชาบทกวีสมัยศตวรรษที่ 17 แห่ง Kenyon College ได้กล่าวไว้ว่า เส้นทางแห่งนี้เป็น "สถานที่เล็ก ๆ สำหรับคิดการใหญ่" (a small place to think big thoughts)
#2 Oxford University

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        การเรียนการสอนในรั้วหิน แห่งมหาวิทยาลัย Oxford แห่งเมือง Oxford ประเทศอังกฤษนั้น มีมาเนิ่นนานตั้งแต่ในสมัยคริสตศตวรรษที่ 11 แล้ว ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามต่างๆ ทั้งเขาวงกต โบสถ์ ทางเดินภายใต้หลังคารูปทรงโค้ง ฯลฯ สถานที่แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสง่างามและประเพณีที่มีมายาวนานในทุกๆมุมของมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ รองศาสตราจารย์เดวิด มาเยอร์นิค แห่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัย Notre Dame ได้กล่าวถึง Oxford ไว้ว่า "รากฐานที่เก่าแก่และความงดงามของตึกต่างๆ ทำให้ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งสถาปัตยกรรมเลยก็ว่าได้" นอกจากนี้มาเยอร์นิคยังกล่าวชื่นชมอีกว่า Oxford เป็น "อาคารมหาวิทยาลัยที่น่าปรารถนาที่สุดของโลก"
#3 Princeton University

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        อันดับที่ 3 เป็นของ Princeton University สถาบันหนึ่งในแปดแห่งกลุ่ม Ivy League ที่โด่งดังและสุดแสนจะคลาสสิคแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบศิลปะโกธิคแท้ๆ อาคารส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นอาคารหินสีเทาเก่าแก่ซึ่งปกคลุมด้วยเถาวัลย์ Ivy (ที่มาของชื่อกลุ่ม Ivy League นั่นแหละค่ะ) ที่มีความขลังและดูสวยงาม และด้วยขนาดของมหาวิทยาลัยที่ไม่ใหญ่มาก ทำให้สถาบันแห่งนี้สามารถเก็บรักษาพื้นที่สีเขียวเอาไว้ได้เป็นอย่างดี และทุกๆอย่างในมหาวิทยาลัยก็อยู่ห่างกันไม่มาก (เรียกว่าเดินไม่เกิน 10 นาทีก็ถึง) ซึ่งเป็นสเน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ รวมไปถึงทางเท้าที่คดเคี้ยว, ทางเดินภายใต้หลังคาโค้ง, และลานกว้างๆต่างๆของที่นี่ทั้งหมด ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา

#4 Scripps College

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        Scripps College เป็นวิทยาลัยสตรีที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเปิดสอนวิชาทางด้านศิลปศาสตร์มาตั้งแต่ปี 1926 มีความสวยงามที่เรียกได้ว่า เป็นการช่วยเหลือกันระหว่างความงามของอาคารเรียนและภูมิทัศน์โดยรอบที่เป็นแบบของแคลิฟอร์เนียใต้อย่างชัดเจน ซึ่งความสวยงามนี้เป็นผลงานการร่วมมือกันของสถาปนิก Gordon Kaufmann และภูมิสถาปนิก  Edward Huntsman-Trout ผูู้เชี่ยวชาญทางด้านไม้ผลัดใบ ที่มาช่วยสร้างสรรค์ให้ภมิทัศน์ของที่นี่งดงามไปด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ ทั้งต้นทิวลิป ต้นอัลมอนด์ ต้นส้ม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ใหญ่ต่างๆที่จะผลัดใบเป็นสีเหลืองทองอร่ามในฤดูใบไม้ร่วง สร้างความงดงามให้กับสถาบันแห่งนี้เป็นอย่างมาก
#5 Stanford University

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        สถาปนิกชื่อดังอย่าง Aaron B. Schwartz ประธานบริษัทออกแบบระดับอินเตอร์ ออกมาแสดงความชื่นชมต่อมหาวิทยาลัย Stanford ที่สถาบันแห่งนี้ยังสามารถยึดมั่นต่อ "กฎเกณฑ์การออกแบบในยุคแรกเริ่มของสถาบัน" ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งๆที่ผ่านมานั้นสถาบันมีการเติบโตอย่างมาก แม้จะมีการสร้างอาคารหรือสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ แต่ก็ยังสามารถทำให้ความสมัยใหม่นั้นความกลมกลืมไปกับศิลปะยุคแรกเริ่มได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ มหาวิทยาลัย Stanford ยังได้คะแนนไปเต็มๆสำหรับ ปาล์มไดรฟ์ (Palm Drive) ซึ่งเป็นถนนทางเข้าเส้นยาวที่มีต้นปาล์มเรียงรายทั้งสองฟากฝั่ง รวมไปถึงหลังคากระเบื้องสีแดงแบบสเปนที่ดูสวยงามของตัวอาคารอีกด้วย

#6 Trinity College

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        Trinity College มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของไอร์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมืองดับลินแห่งนี้ เป็นสถาบันที่มีอาคารที่โด่งดังมีชื่อเสียง และมีความสวยงามมากๆ นั่นก็คือ the Old Library (ที่นับเป็นห้องสมุุดเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปอีกด้วย) หอสมุดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1592 มีความสวยงามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในห้องหลักของหอสมุด ที่มีลักษณะเป็นห้องยาวที่ถูกเรียกว่า "cathedral of the book" หรือ "โบสถ์แห่งหนังสือ" เนื่องจากมีเพดานไม้รูปทรงโค้ง และมีชั้นวางหนังสือต่างๆที่มีลักษณะเหมือนโบสถ์ในแบบของศิลปะบาโรคเก่า ซึ่งใครที่ได้มาเห็นต่างก็ชื่นชมกันเป็นเสียงเดียวเลยว่าห้องสมุดแห่งนี้ดูขลังและมีความงดงามมากๆจริงๆ
#7 Tsinghua University

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        สถาปนิกหลายๆท่านต่างก็ลงความเห็นเหมือนๆกันว่า ทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติเป็นจุดที่สำคัญมากๆที่สร้างความงดงามให้กับสถาบัน Tsinghua แห่งกรุงปักกิ่งในประเทศจีนแห่งนี้ค่ะ มหาวิทยาลัย Tsinghua ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1925 โดยเป็นสถาบันที่ตั้งอยู่ในส่วนที่เป็นเคยเป็นสวนหย่อมหลวงของราชวงศ์ชิง ซึ่งทำให้สถาบันแห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ร่มรื่น และเขียวขจีไปด้วยพันธ์ไม้ต่างๆนั่นเอง แถมด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีม้านั่งหินอยู่รายล้อม และดอกบัวบานสะพรั่งอยู่เต็มสระ แต่แม้ว่าทิวทัศน์โดยรอบของมหาวิทยาลัยและตึกหลายๆตึกจะเป็นศิลปะในแบบจีนดั้งเดิม แต่ก็มีตึกอาคารบางตึกเหมือนกันที่สวยงามด้วยศิลปะแบบตะวันตก เช่นอาคาร T.Chuang ซึ่งสถาปนิกผู้ออกแบบตึกนี้จบการศึกษามาจาก University of Illinois ในสหรัฐอเมริกานั่นเอง
#8 United States Air Force Academy

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!       ตึกอาคารที่โรงเรียนนายเรืออากาศแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Air Force Academy) ถูกมองว่าเป็น "ผลงานชิ้นเอกของศิลปะอเมริกันสมัยใหม่แห่งยุุคศตวรรษที่ 20" ที่แตกต่างไปจากกฎเกณฑ์การออกแบบอาคารเรียนแบบดั้งเดิมในสไตล์โกธิค หรือสไตล์ออกซ์ฟอร์ด เราจะเห็นตึกส่วนใหญ่ดูเหมือนกำลังสวมเกราะอลูมิเนียม ซึ่งเป็นการแสดงถึงพื้นผิวของเครื่องบิน และโบสถ์ของโรงเรียนนายร้อยแห่งนี้ก็มักจะถูกมองว่าเป็นตึกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ในแต่ละปีก็จะมีนักท่องเที่ยวนับล้านที่เดินทางมาชมสถาบันแห่งนี้ จึงนับได้ว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของรัฐโคโลราโด้เลยก็ว่าได้ค่ะ
#9 University of Bologna

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        University of Bologna ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Bologna ประเทศอิตาลีนี้นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในฝั่งโลกตะวันตก เพราะ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1088 ! แต่สิ่งที่ทุกคนชื่นชอบเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยนี้ที่แท้จริงแล้ว ก็คือตัวเมือง Bologna นั่นเอง เพราะดูเหมือนว่าตัวมหาวิทยาลัยเองจะ "ฝัง" ตัวเข้าไปอยู่ในตัวเมืองได้อย่างกลมกลืนที่สุด ซึ่งสิ่งนี้ก็นับเป็นข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่มีความสวยงาม และเต็มไปด้วยรากอารยธรรมที่เก่าแก่ในสมัยก่อนยุคโรมัน ทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้คะแนนในด้านของความสวยงามตามเมืองที่ตั้งไปด้วยนั่นเองค่ะ

#10 University of California, Santa Cruz

10 อันดับมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของโลก!        ด้วยความที่ตั้งอยู่ในส่วนของฟาร์มปศุสัตว์เดิมเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก มหาวิทยาลัย University of California, Santa Cruz หรือ UCSC  แห่งนี้จึงมีภาพวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ทั้งทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สีเขียว ภาพผืนป่าต้นเรดวู้ด และภาพวิวมหาสมุทรแบบพาโนรามา ยิ่งไปกว่านั้นเราจะเห็นได้ว่าเส้นทางการสัญจรของที่นี่ ทั้งในส่วนของทางเดินรถและทางเดินเท้า ต่างก็ถูกดีไซน์ให้สามารถซ่อนตัวเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติของที่นี่ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว ซึ่งทำให้สถาบันแห่งนี้สามารถรักษาสภาพความเป็นธรรมชาติ และทัศนียภาพที่งดงามเอาไว้ได้เป็นอย่างดี จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมนักศึกษาของที่นี่จึงชอบที่จะเรียนนอกห้องเรียนมากกว่า

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทุนการศึกษา AFS

ในแต่ละปีมูลนิธิเอเอฟเอส ประเทศไทยได้ พยายามรณรงค์จัดหาทุนการศึกษาให้กับผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อสนับสนุน และเป็นการกระจายโอกาสให้เยาวชน ที่สนใจใฝ่เรียนได้รับโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างเท่าเทียมกัน โดยแบ่งทุนการศึกษาเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. ทุนเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์
เพื่อสนับสนุนนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผู้มีสิทธิ์ขอรับทุนคือ ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือก บิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย ต้องมีรายได้รวมกันแล้วไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ผู้ประสงค์จะขอรับทุนสามารถขอระเบียบการได้ที่ศูนย์ประสานงานเอเอฟเอสเขต และที่มูลนิธิเอเอฟเอส ประเทศไทย
2. ทุนการศึกษาจากบริษัททั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งภายในและต่างประเทศ
เจ้าของทุนจะจ่ายเงินบริจาคสมทบทุนสำหรับผ่านการคัดเลือกให้กับมูลนิธิเอเอฟเอส ประเทศไทยโดยตรง ผู้มีสิทธิ์ขอทุนประเภทนี้ ต้องเป็นบุตร / ธิดาของเจ้าหน้าที่ หรือพนักงานในหน่วยงานหรือบริษัทของเจ้าของทุนและ / หรือมีคุณสมบัติตามที่เจ้าของทุนกำหนด ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามทางมูลนิธิ และขอรายละเอียดได้จากเจ้าของทุน

3. ทุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
เป็นทุนเต็มจำนวนให้แก่นักเรียนไทยมุสลิม ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดและผ่านการคัดเลือก เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างเยาวชนมุสลิมกับชาวอเมริกัน ผู้ประสงค์จะขอรับทุนสามารถขอระเบียบการได้ที่ศูนย์ประสานงาน เอเอฟเอสเขต และที่มูลนิธิเอเอฟเอส ประเทศไทย

36 คำถามที่เจอการสอบสัมภาษณ์

3 คำถามหลัก
1. ทำไมถึงอยากไปประเทศนั้นๆ
2. ทำไมทางโครงการต้องเลือกคุณให้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
3. ทำไมถึงอยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
คำถามอื่นๆ
4. ถ้าทะเลาะกับโฮสท์แฟมิลี่ จะทำยังไง ?
5. ถ้าเกิดอาการ Homesick จะจัดการยังไง ?
6. เคยไปต่างประเทศมาก่อนมั้ย ?
7. งานอดิเรกที่ชอบทำคืออะไร ?
8. ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองยังไงบ้าง ?
9. ในชีวิตนี้ ใครคือคนที่มีอิทธิพลหรือสำคัญต่อชีวิตมากที่สุด แทบจะ 100% ของคำตอบคงไม่พ้นคุณพ่อคุณแม่ ?
10. คิดว่าจะทำอะไรให้แก่โฮสท์แฟมิลี่ได้บ้าง ?
11. จะซื้ออะไรไปฝากโฮสท์แฟมิลี่ ?
12. ถ้ามีคนถามเกี่ยวกับในหลวงของเรา จะเล่าถึงพระองค์ว่ายังไง?
13. พ่อแม่ทำงานอะไร ?
14. ทำอาหารไทยอะไรได้บ้าง ?
15. หลังจากแลกเปลี่ยนกลับมาแล้ว ตั้งใจจะทำอะไรต่อ ?
16. ปกติที่บ้านมีกิจกรรมอะไรที่ทำร่วมกันบ้าง ?
17. ถ้าโฮสท์แฟมิลี่เกิดเลี้ยงสัตว์ เช่น แมว แล้วเราไม่ชอบแมว จะทำยังไง ?
18. มีวิธีเก็บเงินหรือประหยัดเงินยังไงบ้าง ?
19. ถ้าที่บ้านโฮสท์แฟมิลี่ไม่มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ จะทำยังไง ?
20. ถ้าเกิดปัญหากับโฮสท์แฟมิลี่ จะปรึกษาใคร ?
21. ถ้าเพื่อนต่างชาติ(ฝรั่ง)ชอบเล่นเบสบอลกันมาก แต่เราเล่นไม่เป็น จะทำยังไง ?
22. ถ้าต้องแสดงความสามารถพิเศษให้คนต่างชาติดู จะโชว์อะไร ?
23. คิดว่าภาษาอังกฤษสำคัญต่ออนาคตยังไงบ้าง ?
24. ถ้าต้องแชร์ห้องนอนกับลูกๆ ของโฮสท์แฟมิลี่ จะรู้สึกยังไง ?
25. ปกติเวลาอยู่บ้าน มีหน้าที่อะไรที่ต้องรับผิดชอบบ้าง ?
26. ถ้ามีการแบ่งเวรกันล้างจาน แล้วโฮสท์ sister (น้องสาว) ไม่ยอมล้างและใช้ให้เราล้างจานแทน จะทำยังไง ?
27. ถ้าเกิดปัญหาระหว่างอยู่เมืองนอกและติดต่อพ่อแม่หรือเพื่อนที่ไทยไม่ได้เลย จะทำยังไง ?
28. เคยทำอะไรให้พ่อแม่ภูมิใจบ้าง ?
29. ถ้าได้ไปอยู่ในเมืองที่เล็กมาก สัญญาณอินเตอร์เน็ตก็เข้าไม่ถึง จะทำยังไง ?
30. พ่อแม่คิดเห็นยังไงบ้างที่คุณต้องการจะไปแลกเปลี่ยน ?
31. คิดยังไงกับการเมืองของประเทศไทย ?
32. คิดยังไงกับประธานาธิบดีของอเมริกา (บารัค โอบาม่า) ?
33. ชอบเทศกาลอะไรของไทยมากที่สุด ?
34. ถ้าเกิดมีโจรขึ้นบ้านตอนที่โฮสท์แฟมิลี่ไม่อยู่จะทำยังไง ?
35. ถ้าได้โฮสท์แฟมิลี่ที่เป็นคนเอเชียเหมือนกัน จะทำยังไง ?
36. ถ้าโฮสท์มีปัญหาทางจิตและโมโหร้ายมาก จะทำยังไง ?

เทคนิคการสอบ Toeic ให้ผ่าน

เทคนิคสอบ TOEIC?1. คนได้คะแนนเยอะไม่ค่อยได้ใช้ คนต้องใช้ได้คะแนนไม่ค่อยเยอะ?
TOEIC เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษในการทำงาน ดังนั้นคนที่จำเป็นต้องนำไปใช้จริงๆ จึงมักเป็นวัยทำงาน บางบริษัทอาจส่งพนักงานที่ทำงานมานานแล้วให้ไปสอบเพื่อดูว่าเหมาะสมจะได้เลื่อนตำแหน่งไหม ซึ่งประชากรวัยทำงานในปัจจุบันส่วนมากคงไม่สามารถสู้รบกับเด็กรุ่นใหม่ในเรื่องภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นผู้ที่ได้คะแนนสูงส่วนมากจึงเป็นนิสิตนักศึกษาที่อาจมาลองสนาม หรือสอบเก็บไว้เฉยๆ โดยยังไม่คิดจะสมัครงาน บางบริษัทใหญ่ๆ ว่ากันว่าถ้า TOEIC เกิน 800 ได้งานชัวร์
เทคนิคสอบ TOEIC
เทคนิคสอบ TOEIC?2. ขั้นตอนง่าย ๆ ตั้งแต่สมัครจนรับผล
หลายคนบ่นว่ากว่าจะสมัครสอบ TOEFL ทีมันช่างยากแสนยาก ต้องกรอกข้อมูลลงเว็บมากมาย ไหนจะต้องรูดบัตรจ่ายค่าธรรมเนียม ไหนจะต้องหาสนามสอบที่บางที่ก็ไกลแสนไกล ส่วนที่เดินทางสะดวกก็มักจะเต็ม หรือไม่เปิดให้สอบบ่อยๆ ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับ TOEIC แน่นอน น้องๆ เพียงแค่โทรไปที่ 02-260-7061 หรือ 02-259-3990 สำหรับศูนย์สอบกรุงเทพ หรือ 053-248-208 สำหรับศูนย์สอบเชียงใหม่ แล้วแจ้งชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ พร้อมทั้งวันและรอบที่ต้องการสอบ (เช้า-บ่าย) แล้ววางหู ทีนี้ก็รอวันที่ต้องไปสอบ หลักฐานที่ใช้มีเพียงบัตรประชาชนและเงินสด 1,500 บาทเป็นค่าสอบ วันรุ่งขึ้นก็มารับผลได้เลย รวดเร็วกว่าอาจารย์ตรวจการบ้านให้เยอะ
ส่วนสถานที่สอบของศูนย์กรุงเทพนั้น เดินทางสะดวกแม้ไม่มีรถส่วนตัว เดินเพียง 10 นาทีจากบีทีเอสอโศก หรือเอ็มอาร์ทีสุขุมวิท อยู่ข้างตึก GRAMMY เลยค่ะ จะเล็งศิลปินก่อนสอบ หรือสอบแล้วค่อยมาแอบมองก็ได้ (ถ้าพี่ยามอนุญาต)
                                                                                                                                  
เทคนิคสอบ TOEIC?3. ใส่ความรู้มาให้เต็มสมองแต่อย่าใส่ทองมาในกระเป๋า
ทางศูนย์สอบมีนโยบาย ห้ามนำอะไรก็ตามเข้าห้องสอบ ดินสอ ปากกา ยางลบมีให้ทุกที่นั่งอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะสามารถนำของมีค่า (หมายถึงเงินและบัตรเท่านั้น ไม่ใช่โทรศัพท์) เข้าไปได้ แต่กระเป๋าสตางค์ของน้องผู้หญิงบางคนมันดูอลังการงานสร้างใหญ่โตและมีซอกหลืบมากมายซึ่งเขาอาจไม่อนุญาตให้น้องนำเข้าไปก็ได้ ส่วนที่วางกระเป๋าและสิ่งของต่างๆ นั้น ก็ไม่ได้เก็บไว้หลังห้องสอบหรือใต้โต๊ะ แต่จะเก็บไว้ที่ชั้นวางของที่สำนักงาน ซึ่งก็คือคนละห้องกับห้องสอบ และไม่ได้มีบัตรฝากกระเป๋าใดๆ ด้วย ถ้าใครกลัวว่าจะมัวแต่นั่งกังวลตอนสอบว่าของที่ฝากไว้อีกห้องจะหายไป ก็ไม่ควรนำของมีค่ามา น้องผู้หญิงก็อาจเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์เป็นใบเล็กๆ ธรรมดาๆ ซักหนึ่งวัน กระเป๋าใส่ของก็เอาแบบธรรมดามาไม่ต้องมียี่ห้อ มือถือก็ซุกในกระเป๋าที่ฝากไว้ให้ดี ซ่อนลึกๆ แต่ทางที่ดีคืออย่าทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพค่ะ
เทคนิคสอบ TOEIC?
เทคนิคสอบ TOEIC?4. มั่วยังไงก็ไม่ศูนย์
สอบบางวิชาแถให้ตายอาจารย์ก็ไม่ยอมให้ค่าน้ำหมึก แต่ที่นี่น้องๆ จะไม่มีทางได้ศูนย์คะแนนแน่นอน ข้อสอบทั้งส่วนการฟังและการอ่านมีส่วนละ 100 ข้อ แต่จะมีช่วงคะแนนอยู่ที่ส่วนละ 5 ? 495 คะแนน ฉะนั้นคะแนนต่ำสุดของการสอบคือ 10 คะแนน และคะแนนเต็มคือ 990 คะแนน นั่นเพราะคะแนนในการสอบไม่ใช่แบบที่ใช้กันในห้องเรียนที่มี 30 ข้อ ทำถูก 19 ข้อ สุดท้ายได้สิบเก้าเต็มสามสิบ แต่ข้อสอบ TOEIC จะให้คะแนนที่ซับซ้อนกว่านั้น ข้อสอบในแต่ละรอบจะไม่ซ้ำกันเลย ดังนั้นอาจมีการร้องเรียนได้ว่าคราวนี้ได้คะแนนน้อยเพราะลำโพงแตกหรือมีเสียงก่อสร้างด้านนอก ผู้จัดทำข้อสอบจึงแก้ปัญหาโดยการใช้คะแนนแบบอิงกลุ่มในแต่ละรอบที่สอบด้วยกัน นั่นหมายความว่าจะเอาคะแนนของทุกคนที่สอบรอบเดียวกันมาเปรียบเทียบกัน ทำให้ในแต่ละรอบที่สอบนั้น มีผู้ที่มีโอกาสได้คะแนนเต็มแม้จะไม่ได้ตอบถูกทุกข้อก็ได้
 
เทคนิคสอบ TOEIC?5. สภาพแวดล้อมนั้นสำคัญไฉน
จากข้อ 4. จะเห็นได้ว่าการให้คะแนนเช่นนี้เกิดจากความต้องการให้ผู้เข้าสอบทุกคนอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกันอย่างแท้จริง ทำให้เรารู้ว่าสภาพแวดล้อมมีผลต่อการสอบมาก พี่สอบ TOEIC ไปสองครั้ง ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันสุดขั้ว ครั้งแรกมีผู้เข้าสอบประมาณ 20 คน จึงได้ห้องสอบเล็กๆ นั่งกันโต๊ะละคน มีพื้นที่กว้าง แอร์เย็นสบาย เสียงลำโพงก็เปิดพอประมาณแต่ได้ยินชัดทั้งห้อง ส่วนครั้งที่สองมีผู้เข้าสอบเกิน 60 คนได้ ห้องใหญ่ แอร์ไม่ทั่วถึง บางจุดหนาว บางจุดร้อน และเปิดลำโพงดังจนเสียงแตกฟังไม่ชัด และที่แย่ที่สุดคือโต๊ะหนึ่งตัวต่อผู้เข้าสอบสองคน คนข้างๆ พี่เป็นใครก็ไม่รู้ นั่งเขย่าขาตลอดเวลาและเวลาลบก็ชอบถูยางลบแรงๆ จนโต๊ะสั่นทำเอาเสียสมาธิไปเยอะ แต่สุดท้ายคะแนนทั้งสองรอบของพี่ต่างกันแค่ห้าคะแนนเอง แสดงว่าสภาพแวดล้อมนั้นกวนใจคนทั้งห้องในระดับที่พอๆ กันค่ะ
 
เทคนิคสอบ TOEIC?6. เคล็ดลับทำข้อสอบสำหรับคนไม่ค่อยมีเวลาเตรียมตัว
ในส่วนของไวยากรณ์ที่ออกสอบนั้น ก็สามารถออกได้ทุกอย่างที่มีในหนังสือรวมไวยากรณ์ทั่วไป ไม่สามารถแนะนำได้ค่ะ แต่ที่น้องๆ สามารถเตรียมตัวไปได้ก็คือคำศัพท์ และบทความในส่วนการอ่านค่ะ คำศัพท์ที่ออกจะวนอยู่กับข้าวของเครื่องใช้ในสำนักงาน แล้วก็กริยาประเภทขอยืม ส่งซ่อม ประชุม ลาป่วย ไล่ออก ไม่ต้องเตรียมศัพท์หรูๆ ไปให้เปลืองหน่วยความจำสมอง บทความก็จะเป็นพวกป้ายประกาศรับสมัครงาน จัดซื้อจัดจ้าง ประกาศอบรม สัมมนาบุคลากร งานลดแลกแจกแถม งานฉลองผลประกอบการ จดหมายจากผู้บริโภค และอาจมีอีเมล์โต้ตอบทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน นอกจากนี้น้องๆ ก็ควรรู้จักตำแหน่งงานตามโครงสร้างบริษัททั่วไป และชื่อตำแหน่งเต็มของตัวย่อหลายตัวที่เรียกกันจดติดปาก ทั้ง HR, AE และ PR เป็นต้น เอาเป็นว่าปลอมตัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสารตามบริษัทนานาชาติเพื่อเก็บข้อมูล หรือลองเข้าเว็บไซต์หางานที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วอ่านเรื่อยๆ เมื่อมีเวลาว่าง ก็ได้อะไรกลับมามากเหมือนกันนะคะ
เทคนิคสอบ TOEIC
เทคนิคสอบ TOEIC?7. มีส่วนลดในการเข้าสอบ ถ้ารู้แหล่ง
บางบริษัทจะเหมารอบสอบและออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด บางบริษัทให้นำไปเบิกได้ และก็มีอีกหลายบริษัทที่ให้เป็นบัตรลดราคารายบุคคลคล้าย Gift Voucher ที่ผู้เข้าสอบสามารถนำมายื่นในวันสอบเพื่อรับส่วนลดได้ทันที ครั้งแรกที่สอบพี่ยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่ก่อนสอบครั้งที่สองที่มหาวิทยาลัยพี่มีกิจกรรม Job Fair ซึ่งหลายบริษัทที่เข้าร่วมก็จัดโปรโมชั่นเช่น กรอกใบสมัครทิ้งไว้เพื่อรับบัตรกำนัลสอบในราคา 750 บาท หรือ 850 บาท แต่ศูนย์สอบจะส่งผลคะแนนให้บริษัทนั้นโดยตรง โดยที่พี่ไม่ต้องยื่นใบสมัครอีกรอบ (เป็นบริษัทที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ)
ส่วนในวันสอบจริงพี่เห็นคุณลุงจากบริษัทสายการบินแห่งหนึ่งเสียค่าสอบเพียง 250 บาท และคุณแม่ลูกหนึ่งที่เสีย 400 บาท (ส่วนคุณลูกจ่ายเต็มจำนวน) แม้น้องๆ อาจไม่ได้ส่วนลดเยอะเท่าพนักงานจริงๆ แต่ก็ยังได้ส่วนลดกว่าครึ่งเพียงแค่กรอกข้อมูลสมัครออนไลน์เฉยๆ
 
เทคนิคสอบ TOEIC?8. ทำยังไงดี สอบใหม่ดันได้คะแนนน้อยกว่าเดิม
ข้อนี้ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เราสามารถยื่นคะแนนของการสอบครั้งใดก็ได้ในการสมัครเรียนหรือสมัครงานได้ เพียงแค่ผลสอบนั้นอายุไม่เกินสองปี เพื่อนพี่คนหนึ่งยื่นผลคะแนนพร้อมกันทั้งสองใบตอนสมัครงาน เพราะรอบแรกเธอได้การฟังเต็ม แต่รอบที่สองเธอได้การอ่านเต็ม คะแนนรวมออกมาเท่ากันเป๊ะทั้งสองรอบ เมื่อตัดสินใจไม่ได้ว่าจะยื่นใบไหน เธอเลยยื่นพร้อมกันซะเลย (แต่สุดท้ายเธอก็ปฏิเสธงาน และบินไปเรียนต่อแทน)
 
เทคนิคสอบ TOEIC?9. ข้อสอบแสนดี มีแนะแนวด้วย
หลังจากเซ็งหรือเป็นปลื้มไปกับคะแนนที่ได้แล้ว น้องๆ อย่าลืมพลิกไปด้านหลังใบคะแนนเพื่อดูคำติชมของระดับคะแนนที่น้องๆ ได้ด้วยนะคะ โดยคำอธิบายจะแบ่งเป็นสองส่วนเหมือนกับข้อสอบเลย เช่นคนที่ได้คะแนนส่วนการฟังเท่านี้ แสดงว่าสื่อสารตัวต่อตัวได้ดีราวกับเจ้าของภาษา แต่ถ้าคะแนนเท่านั้นแสดงว่าพูดคุยเรื่องที่สนใจเก่งมาก แต่ถ้าเป็นหัวข้ออื่นๆ จะไม่ค่อยดี ต้องพยายามอีกนิด หรือคนที่ได้คะแนนส่วนการอ่านเท่านี้ แสดงว่าอ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องกับที่เรียนมาได้ดีมาก แต่จะพลาดเวลาอ่านเรื่องแปลกๆ เป็นต้น เรียกได้ว่าช่วยพัฒนาตนเองด้านภาษาอังกฤษเยอะ